วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พบเด็กหญิงวัย 12 ปีสู้ชีวิต พ่อแม่ทิ้งอยู่บ้านเพียงลำพังร่วม 10 ปี ต้องเลี้ยงตัวเอง

พบเด็กหญิงวัย 12 ปีสู้ชีวิต พ่อแม่ทิ้งอยู่บ้านเพียงลำพังร่วม 10 ปี ต้องเลี้ยงตัวเอง

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุบลราชธานีว่า พบชีวิตของเด็กหญิง อายุ 12 ปี ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้อยู่บ้านเพียงลำพังบ้านเลขที่ 33 บ้านคำหมาไน ม.3 ต.นาเลิน อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ไม่มีเงินหรือเครื่องใช้สิ่งของอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตประจำวัน อาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าๆยกพื้น มีประตูไม้เก่าๆ ใช้สำหรับป้องกันอันตราย หลังคามุงด้วยสังกะสี

ภายในบ้านพบ เด็กหญิงพิสมัย หรือ น้องเขียว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำหมาในร่องเข อยู่ภายในบ้านเมื่อขึ้นไปบนบ้านพบราวเสื้อผ้าของเด็กหญิงพิสมัยอยู่ 1 ตะกร้า ในครัวมีเพียงเตาถ่านกระติ๊บข้าวเหนียว และ ถ้วย 2 ใบ สำหรับใส่ข้าวทาน

เด็กหญิงพิสมัยเล่าว่า เรียนอยู่ ชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำหมาในร่องเข ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้าน พักอาศัยหลับนอนอยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง ในวันธรรมดาตนเองก็จะไปโรงเรียนทานข้าวกลางวันที่โรงเรียน และ แม่บ้านที่โรงเรียนก็จะห่อกับข้าวตอนกลางวันมาให้ทานที่บ้านในตอนเย็นด้วย

หลังจากเลิกเรียนจะรับจ้างไปดูแลคนป่วยทำความสะอาดบ้าน ในหมู่บ้านเพื่อแลกเงิน 5 บาท 10 บาท ไปซื้อขนมในโรงเรียน บางวันหากไม่มีใครจ้างก็ไม่มีเงินซื้อขนม ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะไปอยู่ร้านขายของข้างบ้านคอยดูแลคนป่วยเพื่อแลกเงินไว้ไปโรงเรียนในวันธรรมดา

เมื่อถามถึงพ่อแม่ เด็กหญิงพิสมัยเล่าว่าไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่มานานหลายปีแล้ว จนจำหน้าแทบจะไม่ได้ รู้แต่เพียงว่าพ่อกับแม่ไปทำงานที่กรุงเทพตั้งแต่ตนยังเด็ก จากนั้นก็ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อกับแม่ เป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงอยากเจอหน้าพ่อกับแม่ เมื่อวันแม่ที่ผ่านมาโรงเรียนได้จัดงานวันแม่ตนเองก็ได้เข้าร่วมงานแต่ต้องไปไหว้แม่คนอื่น ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จักว่าเป็นใครชื่ออะไร

ด้านนางกาญจนา โกเมนไปรรินทร์ อายุ 62 ปี และ นางธัญญา คงทน 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.3 ต.นาเลิน อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เพื่อนบ้านที่คอยดูเด็กหญิงพิสมัย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองตั้งแต่มาอยู่หมู่บ้านนี้ 9 ปี ยังไม่เคยเห็นหน้า พ่อแม่ของเด็กหญิงพิสมัยเลย

ซึ่งเด็กหญิงพิสมัยเป็นเด็กที่นิสัยดี ขยันรับจ้างทั่วไปเพื่อจะได้มีเงินไปโรงเรียน ตกเย็นก็จะกลับไปนอนที่บ้านหลังนี้ทุกคืนไม่ยอมมานอนกับตน ส่วนตัวแล้วตนเองเป็นห่วงเนื่องจากเด็กหญิงพิสมัยเริ่มจะโตเป็นสาวแล้วบ้านที่อยู่ก็ไม่แข็งแรงแถมยังอยู่คนเดียวซึ่งอันตรายมากสำหรับเด็กผู้หญิงเกรงว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีกับเด็ก

นางกาญจนา กล่าวว่า สิ่งที่ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจะเป็นในเรื่องความเป็นอยู่ การเรียนอยากให้เด็กหญิงพิสมัยได้เรียนสูงๆ เพราะการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคต

สำหรับการช่วยเหลือขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ของเด็กหญิงพิสมัย มีเพียงนายศรีมูล ช่วยสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนคำหมาในร่องเข และนางกีรติญา สืบเหล่า ครูที่ปรึกษา ทำเรื่องถึงสำนักงานการปฐมศึกษาเขต 3 อุบลราชธานี รายงานความเป็นอยู่ของเด็กในความรับผิดชอบเท่านั้น แม้ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลนาเลินจะอยู่ห่างจากบ้านของเด็กแค่ 100 เมตรเท่านั้น ก็ยังไม่มีการเจ้าหน้าที่มาดูแลให้การช่วยเหลือ

เครดิต news.sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น